เบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM, Diabetes)
เบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM, Diabetes) เป็นภาวการณ์ที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากยิ่งกว่าธรรมดา เนื่องจากว่าการขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือการซุกซนต่อฮอร์โมนอินซูลิน นำมาซึ่งการทำให้กรรมวิธีซับน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ภายในร่างกายมีความผิดธรรมดาหรือปฏิบัติงานได้ไม่เต็มสมรรถนะ จนถึงกำเนิดน้ำตาลสะสมในเลือดจำนวนมาก ถ้าปลดปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาพการณ์นี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานจะมีผลให้อวัยวะต่างๆเสื่อม กำเนิดโรคแล้วก็อาการสอดแทรกขึ้น
เบาหวาน
จากข้อมูลของสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาประเทศ (International Diabetes Federation, IDF) เจอคนไข้โรคเบาหวานทั้งโลกราว 415 ล้านคนภายในปี 2558 แล้วก็คาดเดาว่าจะมีปริมาณผู้ที่เจ็บป่วยจากโรคชนิดนี้สูงถึง 642 ล้านคนภายในปี 2583 สำหรับเหตุการณ์เบาหวานในประเทศไทยพบว่า คนประเทศไทยช่วงอายุ 20-79 ปี เป็นโรคโรคเบาหวานจำนวนร้อยละ 7.1 หรือมีความหมายว่า ในปริมาณคน 100 คน จะเจอมีอาการป่วยด้วยเบาหวานราวๆ 7 คน แล้วก็หลายชิ้นกว่าครึ่งไม่รู้จักว่าตัวเองเป็นโรคโรคเบาหวาน สถิติการเจอผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยซึ่งเกิดจากโรคประเภทนี้ยังมีมากมายขึ้นเรื่อยจนกระทั่งทำให้ควรมีการรณรงค์อย่างสม่ำเสมอถึงภัยร้ายของโรค ด้วยเหตุว่าเป็นโรคเรื้อรังหวานใจษาไม่หายสนิท มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกแพร่กระจายใหญ่มหึมาจนกระทั่งจำต้องสูญเสียอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทางสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาประเทศ แล้วก็องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็เลยได้กำหนดให้วันที่ 14 พ.ย.ของทุกปีเป็นวันโรคเบาหวานโลก เพื่อตระหนักถึงจุดสำคัญของโรคนี้
ในขณะนี้ เมืองไทยยึดหลักหลักเกณฑ์ตามสัมพันธ์โรคเบาหวานที่อเมริกาสำหรับในการจัดประเภทคนเจ็บเบาหวานด้วยการตรวจจำนวนน้ำตาลในเลือด ถ้าเกิดผลของการตรวจข้างหลังงดเว้นของกินรวมทั้งเครื่องดื่มมีน้ำตาลอยู่กระแสโลหิตไม่เกิน 100 มก.ต่อดล. แปลว่าระดับน้ำตาลในเลือดธรรมดา ดังนี้ระดับน้ำตาลในเลือดยังบ่งถึงภาวการณ์มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ด้วย (Prediabetes) ซึ่งคนที่อยู่ในกรุ๊ปมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวการณ์เป็นโรคเบาหวานสามารถวิวัฒนาการกำเนิดเบาหวานชนิดที่ 2 (โรคเบาหวานที่เกิดขึ้นจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยเกินไปต่อการใช้) โรคหัวใจ และก็โรคเส้นโลหิตในสมองในอนาคตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ลักษณะโรคโรคเบาหวาน
เบาหวานในช่วงแรกจะไม่ออกอาการแตกต่างจากปกติ บางรายบางทีอาจตรวจเจอเบาหวานเมื่อเจอภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว ลักษณะของโรคโรคเบาหวานแต่ละประเภทอาจมีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งอาการที่เจอโดยมากหมายถึงอยากดื่มน้ำมากมาย ปากแห้ง เยี่ยวบ่อยมาก หิวบ่อยครั้ง น้ำหนักลดหรือเพิ่มเปลี่ยนไปจากปกติ สายตามัว เห็นภาพไม่ชัดเจน รู้สึกอ่อนแรงง่าย มีลักษณะชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือแล้วก็ขา รอยแผลหายยาก ฯลฯ ดังนี้ ลักษณะของโรคโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างเร็ว ในระหว่างที่เบาหวานชนิดที่ 2 จะออกอาการแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ส่วนเบาหวานขณะท้องมักเกิดขึ้นในช่วงอายุท้องราวๆ 24-28 อาทิตย์
สิ่งที่ทำให้เกิดเบาหวาน
เบาหวานมีหลายหมวด สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิดหมายถึงโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 (Type 1 Diabetes) มีต้นเหตุที่เกิดจากตับอ่อนไม่อาจจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 (Type 2 Diabetes) มีสาเหตุจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยเกินไปต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้อรั้นอินซูลิน (Insulin Resistance) โรคเบาหวานขณะท้อง (Gestational Diabetes) เป็นโรคโรคเบาหวานที่ปรับปรุงขึ้นระหว่างการมีท้องจากความเคลื่อนไหวฮอร์โมน โดยที่ผู้เจ็บป่วยไม่เคยเป็นโรคโรคเบาหวานมาก่อน รวมทั้งโรคเบาหวานจากต้นสายปลายเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น การใช้ยา หรือมีเหตุที่เกิดจากโรคประเภทอื่น
การวิเคราะห์โรคโรคเบาหวาน
หมอจะถามไถ่อาการผู้เจ็บป่วย เรื่องราวไม่สบายของคนเจ็บรวมทั้งของบุคคลในครอบครัว และก็การตรวจร่างกาย รวมทั้งที่สำคัญจำเป็นต้องอาศัยการพิสูจน์เลือด เพื่อมองระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหลัก โดยมีวิธีการพินิจพิจารณาระดับน้ำตาลในเลือดหลายแนวทาง อย่างเช่น
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเวลาไหนก็ได้ (Random/Casual Plasma Glucose Test)
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดข้างหลังไม่กินอาหารอย่างต่ำ 8 ชั่วโมง (Fasting Plasma Glucose: FPG)
การตรวจน้ำตาลเฉลี่ยสะสม หรือฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1c: HbA1c)
การทดลองการโต้ตอบของฮอร์โมนอินซูลินต่อระดับน้ำตาลในเลือด (Oral Glucose Tolerance Test: OGTT)
ถ้าผู้เจ็บป่วยไม่มีลักษณะของโรคโรคเบาหวานแจ่มกระจ่างเป็น กระหายน้ำมากมาย เยี่ยวหลายครั้งและก็มากมาย น้ำหนักตัวต่ำลง โดยที่ไม่มีปัจจัย การตรวจด้วยแนวทางทั้งสิ้นข้างต้นจำเป็นจะต้องมีการตรวจซ้ำขั้นต่ำ 1 ครั้งด้วยแนวทางใดแนวทางหนึ่งอีกทีหนึ่งเพื่อรับรองผลของการวิเคราะห์
ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน
เบาหวานเป็นโรคที่ทำให้คนป่วยหรูหราน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าธรรมดา หากว่าไม่มีการควบคุมในเรื่องเกี่ยวกับการกินอาหารและก็รักษาสุขภาพอย่างถูกทาง ปลดปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะมีผลต่อเส้นโลหิตที่นำสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกายจนถึงส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆอีกทั้งโรคแทรกจำพวกที่เกิดกับเส้นโลหิตขนาดเล็ก (microvascular complications) ดังเช่น โรคเบาหวานขึ้นตา โรคไต หรือโรคแทรกประเภทที่เกิดกับเส้นโลหิตขนาดใหญ่ (macrovascular complications) ยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตสมอง โรคเส้นโลหิตแดงส่วนปลายตัน รวมถึงโรคแทรกที่ระบบประสาทแล้วก็ซึ่งสามารถทำให้คนเจ็บจำต้องสูญเสียอวัยะนิดหน่อย นอกจากนั้นสตรีตั้งท้องที่เป็นโรคโรคเบาหวานจะเพิ่มการเสี่ยงต่อภาวการณ์ท้องเป็นพิษ การแท้งลูกได้
การดูแลรักษาเบาหวาน
การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานในจำพวกที่ 1 จำต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปตอบแทนภายในร่างกายด้วยการฉีดยาเป็นหลัก พร้อมกันไปกับการควบคุมของกินรวมทั้งบริหารร่างกายที่สมควร ขณะที่เบาหวานชนิดที่ 2 แม้เป็นในระยะเริ่มต้นๆสามารถรักษาได้ด้วยการกินอาหารที่สมควร การออกกำลัง รวมทั้งควบคุมน้ำหนัก แม้อาการกำเริบ หมอบางทีอาจให้ยาพร้อมกันไปด้วยหรือฉีดอินซูลินเข้าไปชดเชยเหมือนกับเบาหวานจำพวกที่ 1
สำหรับผู้เป็นโรคโรคเบาหวานขณะมีครรภ์ ควรจะเข้าฝากครรภ์กับหมอตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ufabet พร้อมกับควบคุมเรื่องของการรับประทานอาหารที่กินรวมทั้งบริหารร่างกายตามคำแนะนำของหมอ
การปกป้องเบาหวาน
สิ่งจำเป็นของการคุ้มครองป้องกันเบาหวานทุกประเภทหมายถึงจำต้องรอหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดแล้วก็คอเลสเตอรอลให้อยู่กฏเกณฑ์ธรรมดา ย้ำการกินอาหารที่มีสาระแล้วก็สารอาหารครบบริบรูณ์ มีกากใยสูง เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ แล้วก็การสูบยาสูบ รวมทั้งการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นสตรีมีท้องควรจะเข้ารับการฝากท้องตั้งแต่เนิ่นๆเจอหมอตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้รับการตรวจคัดเลือกกรองโรคเบาหวานถ้าเกิดมีการเสี่ยง เพื่อสามารถตรวจเจอเบาหวานได้ในระหว่างการมีครรภ์
เบาหวาน
จากข้อมูลของสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาประเทศ (International Diabetes Federation, IDF) เจอคนไข้โรคเบาหวานทั้งโลกราว 415 ล้านคนภายในปี 2558 แล้วก็คาดเดาว่าจะมีปริมาณผู้ที่เจ็บป่วยจากโรคชนิดนี้สูงถึง 642 ล้านคนภายในปี 2583 สำหรับเหตุการณ์เบาหวานในประเทศไทยพบว่า คนประเทศไทยช่วงอายุ 20-79 ปี เป็นโรคโรคเบาหวานจำนวนร้อยละ 7.1 หรือมีความหมายว่า ในปริมาณคน 100 คน จะเจอมีอาการป่วยด้วยเบาหวานราวๆ 7 คน แล้วก็หลายชิ้นกว่าครึ่งไม่รู้จักว่าตัวเองเป็นโรคโรคเบาหวาน สถิติการเจอผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยซึ่งเกิดจากโรคประเภทนี้ยังมีมากมายขึ้นเรื่อยจนกระทั่งทำให้ควรมีการรณรงค์อย่างสม่ำเสมอถึงภัยร้ายของโรค ด้วยเหตุว่าเป็นโรคเรื้อรังหวานใจษาไม่หายสนิท มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกแพร่กระจายใหญ่มหึมาจนกระทั่งจำต้องสูญเสียอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทางสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาประเทศ แล้วก็องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็เลยได้กำหนดให้วันที่ 14 พ.ย.ของทุกปีเป็นวันโรคเบาหวานโลก เพื่อตระหนักถึงจุดสำคัญของโรคนี้
ในขณะนี้ เมืองไทยยึดหลักหลักเกณฑ์ตามสัมพันธ์โรคเบาหวานที่อเมริกาสำหรับในการจัดประเภทคนเจ็บเบาหวานด้วยการตรวจจำนวนน้ำตาลในเลือด ถ้าเกิดผลของการตรวจข้างหลังงดเว้นของกินรวมทั้งเครื่องดื่มมีน้ำตาลอยู่กระแสโลหิตไม่เกิน 100 มก.ต่อดล. แปลว่าระดับน้ำตาลในเลือดธรรมดา ดังนี้ระดับน้ำตาลในเลือดยังบ่งถึงภาวการณ์มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ด้วย (Prediabetes) ซึ่งคนที่อยู่ในกรุ๊ปมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวการณ์เป็นโรคเบาหวานสามารถวิวัฒนาการกำเนิดเบาหวานชนิดที่ 2 (โรคเบาหวานที่เกิดขึ้นจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยเกินไปต่อการใช้) โรคหัวใจ และก็โรคเส้นโลหิตในสมองในอนาคตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ลักษณะโรคโรคเบาหวาน
เบาหวานในช่วงแรกจะไม่ออกอาการแตกต่างจากปกติ บางรายบางทีอาจตรวจเจอเบาหวานเมื่อเจอภาวะแทรกซ้อนขึ้นแล้ว ลักษณะของโรคโรคเบาหวานแต่ละประเภทอาจมีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งอาการที่เจอโดยมากหมายถึงอยากดื่มน้ำมากมาย ปากแห้ง เยี่ยวบ่อยมาก หิวบ่อยครั้ง น้ำหนักลดหรือเพิ่มเปลี่ยนไปจากปกติ สายตามัว เห็นภาพไม่ชัดเจน รู้สึกอ่อนแรงง่าย มีลักษณะชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือแล้วก็ขา รอยแผลหายยาก ฯลฯ ดังนี้ ลักษณะของโรคโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 จะเกิดขึ้นอย่างเร็ว ในระหว่างที่เบาหวานชนิดที่ 2 จะออกอาการแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ส่วนเบาหวานขณะท้องมักเกิดขึ้นในช่วงอายุท้องราวๆ 24-28 อาทิตย์
สิ่งที่ทำให้เกิดเบาหวาน
เบาหวานมีหลายหมวด สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิดหมายถึงโรคเบาหวานจำพวกที่ 1 (Type 1 Diabetes) มีต้นเหตุที่เกิดจากตับอ่อนไม่อาจจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 (Type 2 Diabetes) มีสาเหตุจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยเกินไปต่อการใช้ หรือเกิดภาวะการดื้อรั้นอินซูลิน (Insulin Resistance) โรคเบาหวานขณะท้อง (Gestational Diabetes) เป็นโรคโรคเบาหวานที่ปรับปรุงขึ้นระหว่างการมีท้องจากความเคลื่อนไหวฮอร์โมน โดยที่ผู้เจ็บป่วยไม่เคยเป็นโรคโรคเบาหวานมาก่อน รวมทั้งโรคเบาหวานจากต้นสายปลายเหตุอื่นๆตัวอย่างเช่น การใช้ยา หรือมีเหตุที่เกิดจากโรคประเภทอื่น
การวิเคราะห์โรคโรคเบาหวาน
หมอจะถามไถ่อาการผู้เจ็บป่วย เรื่องราวไม่สบายของคนเจ็บรวมทั้งของบุคคลในครอบครัว และก็การตรวจร่างกาย รวมทั้งที่สำคัญจำเป็นต้องอาศัยการพิสูจน์เลือด เพื่อมองระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหลัก โดยมีวิธีการพินิจพิจารณาระดับน้ำตาลในเลือดหลายแนวทาง อย่างเช่น
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเวลาไหนก็ได้ (Random/Casual Plasma Glucose Test)
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดข้างหลังไม่กินอาหารอย่างต่ำ 8 ชั่วโมง (Fasting Plasma Glucose: FPG)
การตรวจน้ำตาลเฉลี่ยสะสม หรือฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1c: HbA1c)
การทดลองการโต้ตอบของฮอร์โมนอินซูลินต่อระดับน้ำตาลในเลือด (Oral Glucose Tolerance Test: OGTT)
ถ้าผู้เจ็บป่วยไม่มีลักษณะของโรคโรคเบาหวานแจ่มกระจ่างเป็น กระหายน้ำมากมาย เยี่ยวหลายครั้งและก็มากมาย น้ำหนักตัวต่ำลง โดยที่ไม่มีปัจจัย การตรวจด้วยแนวทางทั้งสิ้นข้างต้นจำเป็นจะต้องมีการตรวจซ้ำขั้นต่ำ 1 ครั้งด้วยแนวทางใดแนวทางหนึ่งอีกทีหนึ่งเพื่อรับรองผลของการวิเคราะห์
ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน
เบาหวานเป็นโรคที่ทำให้คนป่วยหรูหราน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าธรรมดา หากว่าไม่มีการควบคุมในเรื่องเกี่ยวกับการกินอาหารและก็รักษาสุขภาพอย่างถูกทาง ปลดปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะมีผลต่อเส้นโลหิตที่นำสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกายจนถึงส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆอีกทั้งโรคแทรกจำพวกที่เกิดกับเส้นโลหิตขนาดเล็ก (microvascular complications) ดังเช่น โรคเบาหวานขึ้นตา โรคไต หรือโรคแทรกประเภทที่เกิดกับเส้นโลหิตขนาดใหญ่ (macrovascular complications) ยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตสมอง โรคเส้นโลหิตแดงส่วนปลายตัน รวมถึงโรคแทรกที่ระบบประสาทแล้วก็ซึ่งสามารถทำให้คนเจ็บจำต้องสูญเสียอวัยะนิดหน่อย นอกจากนั้นสตรีตั้งท้องที่เป็นโรคโรคเบาหวานจะเพิ่มการเสี่ยงต่อภาวการณ์ท้องเป็นพิษ การแท้งลูกได้
การดูแลรักษาเบาหวาน
การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานในจำพวกที่ 1 จำต้องได้รับฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปตอบแทนภายในร่างกายด้วยการฉีดยาเป็นหลัก พร้อมกันไปกับการควบคุมของกินรวมทั้งบริหารร่างกายที่สมควร ขณะที่เบาหวานชนิดที่ 2 แม้เป็นในระยะเริ่มต้นๆสามารถรักษาได้ด้วยการกินอาหารที่สมควร การออกกำลัง รวมทั้งควบคุมน้ำหนัก แม้อาการกำเริบ หมอบางทีอาจให้ยาพร้อมกันไปด้วยหรือฉีดอินซูลินเข้าไปชดเชยเหมือนกับเบาหวานจำพวกที่ 1
สำหรับผู้เป็นโรคโรคเบาหวานขณะมีครรภ์ ควรจะเข้าฝากครรภ์กับหมอตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ufabet พร้อมกับควบคุมเรื่องของการรับประทานอาหารที่กินรวมทั้งบริหารร่างกายตามคำแนะนำของหมอ
การปกป้องเบาหวาน
สิ่งจำเป็นของการคุ้มครองป้องกันเบาหวานทุกประเภทหมายถึงจำต้องรอหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดแล้วก็คอเลสเตอรอลให้อยู่กฏเกณฑ์ธรรมดา ย้ำการกินอาหารที่มีสาระแล้วก็สารอาหารครบบริบรูณ์ มีกากใยสูง เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ แล้วก็การสูบยาสูบ รวมทั้งการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นสตรีมีท้องควรจะเข้ารับการฝากท้องตั้งแต่เนิ่นๆเจอหมอตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้รับการตรวจคัดเลือกกรองโรคเบาหวานถ้าเกิดมีการเสี่ยง เพื่อสามารถตรวจเจอเบาหวานได้ในระหว่างการมีครรภ์
NCD